วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 14
บันทึกอนุทิน

วิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันจันทร์  ที่ 1  เดือนธันวาคม  พ.ศ.2557

เวลา  11.30-14.00  น.

กิจกรรมวันนี้

          เป็นการเรียนการสอนวันสุดท้ายของภาคเรียนนี้ อาจารย์ก็ได้ให้นักศึกษาแต่ล่ะคนเขียนประเมินอาจารย์ผู้สอน โดยไม่ต้องเขียนชื่อเราลงไปว่า เรียนกับอาจารย์แล้วเป็นอย่างไร ได้รับความรู้จากการเรียนวิชานี้มากน้อยเท่าไหร่  และก็ได้รวบรวมคะแนนดาวเข้าเรียน สำหรับใครที่ได้ดาวเยอะอาจารย์ก็จะมีของรางวัลให้ 


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

   เราต้องเก็บเกี่ยวเอาความรู้ที่ได้เรียนมาตั้งแต่ต้นเทอมยันท้ายเทอมสำหรับวิชานี้ให้มากๆ เพื่อที่ว่าจะได้นำไปใช้ในการฝึกสอนในวันข้างหน้า และรวบรวมสิ่งที่ได้จากการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนภายในห้องที่เราได้รับมา มาใช้ให้เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและสิ่งที่สำคัญที่เกี่ยวกับเด็กพิเศษเราก็ต้องศึกษาหรือทำความเข้าใจในตัวของเด็กที่มีความบกพร่องในลักษณะนี้ให้มากๆ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเด็กเหล่านี้ให้ได้ รวมถึงการสอนให้เขาได้เรียนรู้และช่วยเหลือตนเองให้ได้บ้าง จัดกิจกรรมที่เด็กสามารถทำได้ด้วยตนเองหรือเล่นได้ และก็ให้ความดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด




ครั้งที่ 13 
บันทึกอนุทิน

วิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันจันทร์  ที่ 24  เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ.2557

เวลา 11.30-14.00  น.

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้

             เด็กสามาธิสั้น ADHD

การดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กสมาธิสั้น
1.การใช้ยา
   -ปัจจุบันถือเป็นมาตรฐานการรักษา
   -ยาที่ใช้มีความปลอดภัย และมีผลข้างเคียงน้อย
   -สามารถช่วยให้เด็กมีสมาธิดีขึ้น สงบขึ้น และควบคุมตนเองได้ดีขึ้น
   -ส่งผลให้การเรียนดี ความสัมพันธ์คนรอบข้างดีขึ้น
2.การปรับพฤติกรรม (การฝึกฝนการควบคุมตนเอง)
   -จัดกิจวัตรประจำวันของเด็ก ให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอตามเวลาที่กำหนดไว้
   -ฝึกฝนให้เด็กมีสมาธิกับสิ่งทีทำได้ต่อเนื่อง ประมาณ 20-30 นาที
   -ให้ความสนใจเมื่อเด็กทำตัวดี หรือเข้ามาช่วยเหลืองานบางอย่าง
   -ลงโทษให้ถูกวิธี
3.การปรับสภาพแวดล้อม
   -สิ่งแวดล้อมต้องไม่กระตุ้นเด็กจนมากเกกินไป
   -จัดเก็บของเล่นต่างๆเข้าที่ ให้พ้นจากสายตาเด็ก
   -เวลาทำงาน ควรจัดมุมที่สงบ ห้องต้องไม่กว้างเกินไป ไม่มีคนเดินไปมา
การสื่อสารกับเด็กสามาธิสั้น
   -สังเกตว่าเด็กอยู่ในภาวะที่พร้อม หรือมีสมาธิ
   -ควรมีภาษาท่าทาง และการสัมผัสร่วมไปด้วยกับการพูดคุย
   -ใช้คำพูดที่กระชับ ได้ใจความชัดเจน
กิจกรรมบำบัดเด็กสมาธิสั้น
   -Physical Exertion ลดภาวะไม่อยู่นิ่ง
   -Self Control ควบคุมตนเอง
   -Relaxation ผ่อนคลาย
โรงเรียนสำหรับเด็กสมาธิสั้น
   -เด็กสมาธิสั้น สามารถเรียนในโรงเรียนปกติทั่วไปได้
   -ควรเป็นโรงเรียนที่คุณครูมึความรู้ ความเข้าใจ ในโรคสมาธิสั้นดี
   -ให้ความร่วมมือในแนวทางช่วยเหลือต่างๆอย่างเต็มที่
   -สัดส่วนจำนวนเด็กต่อห้องเรียนน้อย
   -โรงเรียนที่มีพื้นที่สนามเด็กเล่น หรือสนามกีฬาที่กว้าง
บทบาทของครู
   -ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้ติดหน้าต่างหรือประตู
  -ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
  -จัดให้เด็กนั่งติดกับนัดเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
  -ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง
  -ใช้วิธีลดระยะการทำงานให้สั้นลง แต่ทำบ่อยกว่าคนอื่น
  -ไม่ควรลงโทษรุนแรง
  -ให้ความสนใจ และชื่นชมเมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ดี
  -การสื่อสารกับเด็กให้ถูกวิธี
หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
   1.สำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ (สศศ)
   2.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
   3.ศูนย์การศึกษาพิเศษ (Early Intervention : EI)
   4.โรงเรียนเฉพาะความพิการ
   5.สถาบันราชานุกูล
   6.มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง



สรุปโทรทัศน์ครู โรงเรียนอนุบาลสาธิตละอออุทิศ (ศูนย์การศึกษาพิเศษ)
 ตอน ''ห้องเรียนแรกของเด็กพิเศษ''

ฝ่ายบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มเด็กพิการและครอบครัว
   1.การส่งต่อจากครอบครัวหรือผู้เชี่ยวชาญ (อ.3 ขวบ แผนการศึกษาเฉพาะครอบครัว)
   2.ประเมินพัฒนาการตามช่วงวัย
   3.การจัดแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล หรือ เฉพาะครอบครัว
   4.จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะอย่างรอบด้าน (เน้นการเดิน ทักษะการสื่อสาร)
   5.การประเมินผล
*การสอนทักษะพื้นฐานในกิจวัตรประจำวัน (การกลืน การเคี้ยว)
การออกแบบกิจกรรมเพื่อกระตุ้นพัฒนาการอย่างรอบด้าน
   -กิจกรรมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก และสมาธิ (การทรงตัว การใช้มือ จะส่งเสริมทักษะทางสังคม)
   -กิจกรรมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก การรับรู้สัมผัส
   -กิจกรรมพัฒนาทักษะการมอง ทำตามคำสั่งและการสื่อสาร
   -กิจกรรมพัฒนาทักษะการมอง ทำตามคำสั่งและพื้นฐานวิชาการ
   -กิจกรรมพัฒนาทักษะการฟัง การทรงตัว การสัมผัส 
สื่อที่ใช้สำหรับเด็กพิเศษ
   1.กระดานไวบอร์ด
   2.ไข่ปลอมจากแป้งโด
   3.ผลเงาะ
   4.ลูกโปร่งใส่น้ำ
   5.เครื่องกีดขวาง



การนำไปประยุกต์ใช้
-สามารถนำศิลปะบำบัดมาประยุกต์ใช้ในเด็กพิเศษกลุ่มผู้บกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา พบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถเสิมสร้างพัฒนาการและช่วยบรรเทาปัญหาทางด้านอารมณ์-จิตใจ และพฤติกรรม ดึงศักยภาพที่มีอยู่มาใช้เต็มที่ยิ่งขึ้น

ประเมินตนเอง
-แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังและจดเนื้อหาที่อาจารย์ได้สอน พร้อมทั้งให้ความร่วมมือในการไม่ส่งเสียงดังในห้อง เพราะจะเป็นการรบกวนเพื่อนข้างๆที่เขากำลังตั้งใจเรียนค่ะ

ประเมินเพื่อน
-เพื่อนๆบางคนชอบคุยกันเสียงดัง จนทำให้อาจารย์ดุบ้างเล็กน้อย และบางคนก็ตั้งใจเรียนแล้วก็ไม่คุยกันเสียงดัง

ประเมินอาจารย์
-อาจารย์แต่งกายเรียบร้อย สะอาด สุภาพ น่ารัก พูดเพราะ สอนเข้าใจง่ายและก็เข้าใจนักศึกษาว่าช่วงที่ใกล้จะสอบ งานบางวิชาก็มีเยอะแต่อาจารย์ก็ไม่ได้สั่งงานอะไร ชอบให้ทำงานกลุ่มในห้องและก็ให้ออกมานำเสนอ ถ้ามีเวลาเพียงพอให้แต่ล่ะกลุ่ม







ครั้งที่ 12
บันทึกอนุทิน

วิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันจันทร์  ที่ 17  เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ.2557

เวลา  11.30-14.00  น.

กิจกรรมวันนี้

    เนื่องจากอาจารย์ได้งดการเรียนการสอนเพื่อให้นักศึกษาไปจัดเตรียมงาน ครูปฐมวัยร่วมใจอนุรักษ์ สืบทอดความเป็นไทย ในวันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2557 ที่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 จัดทำขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชานาฏศิลป์และเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย พร้อมทั้งสรุปความรู้ที่ได้จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้



ภาพบรรยากาศภายในงาน
























การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

          สามารถนำไปปรับใช้หรือสอนให้เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยได้ โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นครูควรให้เด็กได้ปฏิบัติ ลงมือกระทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยตนเอง รวมทั้งการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมนั้นๆให้สำเร็จลุล่วง เปิดโอกาสให้เด็กได้กล้าคิด กล้าทำกล้าแสดงออก และตัดสินใจด้วยตนเอง ส่งเสริมการจัดประสบการณ์ที่พึ่งประสงค์ต่อกระบวนการการจัดการเรียนที่ดีให้กับเด็กอีกด้วย






ครั้งที่ 11
บันทึกอนุทิน

วิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันจันทร์  ที่ 10  เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557

เวลา 11.3-14.00 น.



เนื้อหาที่ได้เรียนรู้ในวันนี้


การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรมเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วัตถุประสงค์ของการส่งเสริมพัฒนาการ
-เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้
-เพื่อส่งเสริมให้เด็กกล้าคิกกล้าแสดงออก
-เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้ที่ถูกต้อง และสามารถนำไปใช้ได้

เป้าหมายของการส่งเสริมพัฒนาการ
-เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้
-เด็กสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
เฉพาะ
-เด็กสามารถพัฒนาตนเองได้ตามขั้นตอน
-เด็กสามารถแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม

ผลที่ได้จากการส่งเสริมพัฒนาการ
-พัฒนาทักษะด้านต่างๆได้
-สามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและช่วยเหลือตนเองได้
-สังคมยอมรับมากขึ้น
-ลดภาวะปัญหาทางพฤติกรรม
-คุณภาพชีวิตดีขึ้น

Down's Syndrome
-เพื่อให้เด็กช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน
-ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด
-เน้นการดูแลแบบองค์รวม
-แนวทางการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
-ด้านสุขภาพอนามัย
-ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ
-การดำรงชีวิตประจำวัน
-การฟื้นฟูสมรรถภาพ

การปฏิบัติของบิดา มารดา
-ยอมรับความจริง
-เด็กดาวน์มีพัฒนาการเป็นขั้นตอนเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป

-ให้ความรักและความอบอุ่น
-การตรวจภายใน ตรวจหามะเร็งปากมดลูก และเต้านม
-การคุมกำเนิดและการทำหมัน
-การสอนเพศศึกษา
-ตรวจโรคหัวใจ


Autistic
แนวทางการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
1.ส่งเสริมความเข้มแข็งครอบครัว
2.ส่งเสริมความสามารถเด็ก
3.พฤติกรรมบำบัด
4.ส่งเสริมพัฒนาการ
5.การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์
5.การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา
6.การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
7.การรักษาด้วยยา
8.การบำบัดทางเลือก



การสื่อสารความหมายทดแทน
(Augmentative and Alternative Communication;AAC)
  • การรับรู้ผ่านการมอง(Visual Strategies)
  • โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร(Picture Exchange  Communication System;PECS)
  • เครื่องโอภา(Communication Devices)
  • โปรแกรมปราศรัย
Picture Exchange Communication System(PECS)






ใช้โอภา รุ่น 2.3 อุปกรณ์ช่วยสื่อสาร แบบพกพา สำหรับผู้ที่บกพร่อง ทางด้านการพูด



        โอภา รุ่น 2.3 เสริมฟังก์ชันพิเศษให้กับผู้ใช้ที่ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของนิ้วมือได้ หรือ มีกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนทำให้กดปุ่มสัญรูปบนหน้ากล่องโอภาได้ เพิ่มฟังก์ชัน การสแกนปุ่มโดย มีหน้าปัทม์แสดงตัวเลขบอกการสแกนไปที่ช่องหมายเลข ผู้ใช้สามารถเลือกช่องหมายเลขนั้นๆ โดยการกดสวิตช์เดี่ยวที่พ่วงต่อกับโอภา หรือเลือกใช้รีโมท คอนโทรลในการเลือกหมายเลขช่องสัญรูป ในกรณีที่ผู้ใช้มีการบังคับและควบคุมกล้ามเนื้อได้ กลับสู่เนื้อหาหลัก

คุณสมบัติ
  • สามารถบันทึกเสียง และเล่นเสียงข้อความที่บันทึกไว้
  • สามารถบันทึกได้ 60 ข้อความ ข้อความละ 4 วินาที แบ่งเป็น 4 ระดับ ระดับละ 15 ข้อความ
  • สามารถบันทึกเสียงได้ใหม่ตลอดเวลา
  • สามารถใช้งานร่วมกับสวิตช์ (single switch) ในหน้าที่การทำงานแบบสแกน ในการเล่นเสียงข้อความที่บันทึก
  • สามารถสั่งงานการเล่นเสียงข้อความที่บันทึกผ่านรีโมทได้
  • มีหลอดไฟขนาดเล็กแสดงสถานะการทำงาน
  • สามารถปรับความดังของเสียง และต่อสัญญาณเสียงไปยังเครื่องขยายเสียงภายนอกได้
  • สามารถปรับตัวเองให้อยู่ในระบบประหยัดพลังงานได้ ขณะไม่ได้เล่นจะใช้กระแสไฟ 10 มิลลิแอมป์ ขณะเล่นจะใช้กระแสไฟ 80 มิลลิแอมป์ สามารถเล่นติดต่อกันได้นาน 7.5 ชั่วโมง สามารถเปิดเครื่องรอใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง
  • สามารถใช้ไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกผ่านหม้อแปลงไฟขนาด 9 โวลต์
  • สามารถชาร์จแบตเตอรีได้ตลอดเวลา 


การนำไปประยุกต์
-เราสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยได้ ทั้งยังสามารถนำไปสอนหรือจัดหากิจกรรมที่ส่งผลที่ดีให้กับเด็ก ส่งเสิมพัฒนาการในทุกๆด้านให้กับเด็กปฐมวัยได้

ประเมินตนเอง
-แต่งกายเรียบร้อย ถูกระเบียบ ตั้งใจฟังและเก็บเกี่ยวเอาความรู้ที่ได้จากที่อาจารย์สอนมาเป็นแนวทางในการศึกษาต่อไป

ประเมินเพื่อน
-เพื่อนๆ บางคนยังคุยเสียงดังกันอยู่ ส่วนบางคนก็ตั้งใจเรียนดี

ประเมินอาจารย์
-อาจารย์แต่งกายสุภาพ สะอาด ชอบที่อาจารย์ไม่ค่อยดุนักศึกษาค่ะ อาจารย์ใจดีและก็สอนสนุก สามารถอธิบายให้นักศึกษาเข้าใจในเรื่องที่กำลังสอนและเรียน


ครั้งที่ 10 
บันทึกอนุทิน

วิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันจันทร์  ที่ 3 เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ.2557

เวลา 11.30-14.00 น.



กิจกรรมในวันนี้..................


อาจารย์ได้เฉลยข้อสอบในแต่ล่ะข้อ พร้อมกับบอกคะแนนที่สอบว่าได้เท่าไหร่




การนำไปประยุกต์ใช้
-เราสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับเด็กปฐมวัยได้ ทั้งยังสามารถนำไปสอนหรือจัดหากิจกรรมที่ส่งผลที่ดีให้กับเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการในทุกๆด้านให้กับเด็กปฐมวัย

ประเมินตนเอง
-วันนี้แต่งกายเรียบร้อย คะแนนที่สอบออกมาได้น้อยค่ะ สอบไม่ผ่าน รู้สึกผิดหวังในตัวเองเป็นอย่างมาก แต่ก็จะตั้งใจเรียนและพยายามทำคะแนนให้มากว่านี้ให้ได้ค่ะ

ประเมินเพื่อน
-เพื่อนๆแต่ล่ะคนดูตื่นเต้นมากที่จะได้รับฟังคะแนนสอบจากอาจารย์ บางคนก็สอบได้ ส่วนบางก็สอบตก 

ประเมินอาจารย์
-อาจารย์แต่งกายเรียบร้อย สะอาด สุภาพ 


ค้นคว้าเพิ่มเติม.........





ครั้งที่ 9
บันทึกอนุทิน

วิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันจันทร์  ที่ 27 เดือนตุลาคม  พ.ศ.2557

เวลา 11.30-14.00 น. 



วันนี้สอบกลางภาค

ในรายวิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
ที่มีความต้องการพิเศษ